วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

ปัญหาการรังวัดสอบเขตที่ดินข้างเคียง


            ทนายคลายทุกข์ขอนำปัญหาการรังวัดสอบเขตที่ดินข้างเคียง ซึ่งมีเป็นจำนวนมากในต่างจังหวัด ตามประมวลกฎหมายที่ดิน .. 2497มาตรา 69 ทวิ มานำเสนอว่า กรณีมีปัญหาเรื่องเนื้อที่ไม่ตรงกัน ติดต่อข้างเคียงไม่ได้หรือมีการคัดค้านหรือมีการฟ้องร้อง จะต้องทำอย่างไร

            ในการรังวัดสอบเขต ถ้าปรากฏว่าการครอบครองไม่ตรงกับแผนที่หรือเนื้อที่ในโฉนดที่ดินให้เจ้าพนักงานที่ดินมีอำนาจแก้ไขแผนที่หรือเนื้อที่ในโฉนดที่ดินให้ตรงกับความเป็นจริงได้ มื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้ลงชื่อรับรองแนวเขตแล้ว เว้นแต่เป็นการสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายเช่น แบ่งขาย หรือแลกเปลี่ยนกันเอง โดยไม่จดทะเบียนเพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียม

            กรณีต้องให้เจ้าของที่ดินข้างเคียงลงชื่อรับรองเขตก่อน ถึงจะแก้ไขได้ ถือเป็นหลักทั่วไป เป็นการคุ้มครองสิทธิทุกฝ่าย แต่ก็มีข้อยกเว้นในวรรคสาม

            วรรคสาม วิธีปฏิบัติในกรณีข้างเคียงไม่ได้รับรองแนวเขต
            วรรคสามนี้ เพื่อง่ายต่อการเข้าใจ ขอแยกสาเหตุที่ไม่ได้มีการลงชื่อรับรองแนวเขตไว้ 3 กรณี  และอธิบายควบกับวรรคสี่ เพราะต่อเนื่องกันดังนี้

1) ไม่อาจติดต่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงให้มาระวังแนวเขตได้
กรณีนี้ หมายความว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ได้มีหนังสือแจ้งให้เจ้าของที่ดินข้างเคียงไประวังชี้รับรองเขตอยู่แล้ว (ดูมาตรา 70) แต่ปรากฏว่าไม่อาจติดต่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงรายนั้นได้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะได้ย้ายภูมิลำเนาจากที่อยู่เดิม แล้วไม่ได้แจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินทราบ หรือยังอยู่ที่เดิมแต่ไปรษณีย์นำจ่ายไม่ได้ เช่น ไม่มีผู้รับ หรืออยู่นอกเขตจ่าย เป็นต้น

2) ติดต่อได้ แต่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงไม่มาระวังแนวเขต

3) ติดต่อได้ และผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงมาระวังแนวเขต แต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขต โดยไม่ได้คัดค้านการรังวัด
            ในสาเหตุหนึ่งเหตุใดใน 3 กรณี ดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการเพิ่มเติมอีก ดังนี้

            (1) กรณีติดต่อได้ แต่ข้างเคียงไม่มาระวังแนวเขตหรือติดต่อได้และเจ้าของที่ดินข้างเคียงได้มาระวังแนวเขตแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขต โดยไม่คัดค้านการรังวัด ตาม (2) และ (3) ทั้ง 2 กรณีนี้พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้นั้นมาลงชื่อรับรองเขต หรือคัดค้านภายใน30 วัน นับแต่วันที่ได้ ?ส่ง?หนังสือแจ้ง โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยัง ตามที่อยู่ที่เคยติดต่อหรือตามที่อยู่ที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงนั้นได้แจ้งเป็นหนังสือไว้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

            (2) ในกรณีที่ไม่อาจติดต่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงให้มาระวังแนวเขตได้ (ตาม 1)
กรณีนี้พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องทำหนังสืออีกครั้งแจ้งให้ผู้นั้นมารับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัดภายใน 30 วัน โดยปิดหนังสือแจ้งฉบับนั้นไว้ในที่เปิดเผย  บริเวณที่ดินของข้างเคียงรายนั้น และที่ว่าการเขตหรือที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอท้องที่อันเป็นที่ตั้งของที่ดินแปลงนั้น แห่งละ 1 ฉบับพร้อมกับส่งหนังสือแจ้งนั้นทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังเจ้าของที่ดินข้างเคียงรายนั้นตามที่อยู่ที่พนักงานเจ้าหน้าที่สอบถามได้ความจากนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น หรือถ้าสอบถามแล้วก็ยังไม่ทราบ ก็ให้ส่งไปยังที่อยู่ตามที่อยู่ที่ปรากฏหลักฐานที่สำนักงานที่ดิน

            เมื่อดำเนินการมีหนังสือแจ้งไปอีกครั้ง หรือปิดประกาศ ตาม (1)และ (2) แล้ว แต่กรณีแล้ว ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงรายนั้นไม่ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด คือมารับรองเขตหรือคัดค้านแนวเขตภายใน 30 วันและผู้ขอสอบเขตได้ให้คำรับรองว่ามิได้ทำการรังวัดรุกล้ำที่ดินข้างเคียงและยินยอมให้แก้ไขรูปแผนที่หรือเนื้อที่ตรงกับความเป็นจริง หากปรากฏในภายหลังว่าแผนที่หรือเนื้อที่ที่แก้ไขใหม่นั้นไม่ถูกต้อง ก็ให้เจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการแก้ไขรูปแผนที่หรือเนื้อที่ โดยไม่ต้องมีการลงชื่อรับรองแนวเขต

            วรรคสี่ ?การติดต่อหรือการแจ้งข้างเคียงผู้มิสิทธิในที่ดินข้างเคียงตามวรรคสามให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง?
            (ได้แก่ ฉบับที่ 31 ได้นำสาระสำคัญมารวมไว้ในวรรคสามแล้ว)

            วรรคห้า ในการรังวัดสอบเขต ถ้าปรากฏว่ามีผู้คัดค้าน ให้เจ้าพนักงานที่ดินมีอำนาจสอบสวนไกล่เกลี่ยโดยให้ถือหลักฐานแผนที่เป็นหลักในการพิจารณา

            ถ้าตกลงกันไม่ได้ ให้แจ้งคู่กรณีไปฟ้องศาลภายใน 90 วัน นับแต่วันได้รับแจ้ง ถ้าไม่ฟ้องภายในกำหนดดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ขอไม่ประสงค์จะสอบเขตโฉนดที่ดินนั้นต่อไป (ตัวบทใช้คำว่า ?ให้แจ้งคู่กรณีหมายความว่าต้องแจ้งทั้ง 2 ฝ่าย คือทั้งฝ่ายผู้ขอและฝ่ายผู้คัดค้าน ดังนั้น การนับ 90วัน ต้องนับจากวันที่รับแจ้งฝ่ายล่าสุด)
 ขอบคุณทนายคลายทุกข์ครับ
http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=1688     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น